13 หน่วยพิทักษ์
คือหน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ ถูกแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ 13 หน่วยด้วยกัน แต่ละหน่วยถูกเรียกด้วยหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 13 และมีผู้นำคือหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย เครื่องแบบของหัวหน้าหน่วยจะแตกต่างจากเครื่องแบบปกติของชินิกามิ กล่าวคือจะใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ด้านหลังเขียนหมายเลขของหน่วยทับยูกาตะสีดำของชินิกามิอีกทีหนึง ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นจะสวมปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย หัวหน้าของหน่วยหนึ่งยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์อีกด้วย
ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจากหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น (กล่าวคือมียศเป็นอันดับที่สาม สี่ ห้า ฯลฯ ลงมา) ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของชินิกามิ ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ เป็นที่น่าสังเกตว่าชินิกามิที่ถือยศตำแหน่งที่สามกับที่ถือยศตำแหน่งที่ห้าอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้อย่างเชี่ยวชาญ (ยกเว้น หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เค็มปาจิ ที่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย) ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยบังไคของตัวเองได้ รองหัวหน้าหน่วยที่ปลดปล่อยบังไคได้ ตอนนี้มีเพียง เร็นจิและอิกคาคุ(ไม่ใช่รองหัวหน้า)
คือหน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ ถูกแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ 13 หน่วยด้วยกัน แต่ละหน่วยถูกเรียกด้วยหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 13 และมีผู้นำคือหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย เครื่องแบบของหัวหน้าหน่วยจะแตกต่างจากเครื่องแบบปกติของชินิกามิ กล่าวคือจะใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ด้านหลังเขียนหมายเลขของหน่วยทับยูกาตะสีดำของชินิกามิอีกทีหนึง ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นจะสวมปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย หัวหน้าของหน่วยหนึ่งยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์อีกด้วย
ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจากหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น (กล่าวคือมียศเป็นอันดับที่สาม สี่ ห้า ฯลฯ ลงมา) ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของชินิกามิ ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ เป็นที่น่าสังเกตว่าชินิกามิที่ถือยศตำแหน่งที่สามกับที่ถือยศตำแหน่งที่ห้าอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้อย่างเชี่ยวชาญ (ยกเว้น หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เค็มปาจิ ที่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย) ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยบังไคของตัวเองได้ รองหัวหน้าหน่วยที่ปลดปล่อยบังไคได้ ตอนนี้มีเพียง เร็นจิและอิกคาคุ(ไม่ใช่รองหัวหน้า)
หน่วยที่ 1 ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ
ลักษณะ/อุปนิสัย
ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ เป็นชายชรา ศีรษะล้าน มีเคราสีขาวยาว ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล มีดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่ทรงพลังที่สุดในโซลโซไซตี้ เป็นคนที่มีนิสัยเคร่งครัดต่อระเบียบและใช้เหตุผลกับหลักการเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ซึ่งไม่ยอมให้ใครใช้หลักคุณธรรมของตนเองจนบิดเบือนคุณธรรมของโลก และมีบุคลิกค่อนข้างจะสงบครึมยากที่จะเดาอารมณความได้ นอกจากแสดงออกมาเอง
ประวัติ
จอมทัพแห่งสิบสามหน่วยพิทักษ์ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ “ผู้ยึดมั่นในปัจจุบัน และมั่นคงอยู่เป็นนิจ” จอมทัพอาวุโสซึ่งเป็นผู้สั่งการของสิบสามหน่วยพิทักษ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในการรบ ภาพลักษณ์นั้นจะแสดงออกในรูปแบบของนักรบผู้เข้มงวดและเปี่ยมด้วยความเป็นผู้นำ เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิญญาณชินโอและเป็นหัวหน้าหน่วยรุ่นบุกเบิก ซึ่งอายุของเขานั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ปี
ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ เป็นชายชรา ศีรษะล้าน มีเคราสีขาวยาว ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล มีดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่ทรงพลังที่สุดในโซลโซไซตี้ เป็นคนที่มีนิสัยเคร่งครัดต่อระเบียบและใช้เหตุผลกับหลักการเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ซึ่งไม่ยอมให้ใครใช้หลักคุณธรรมของตนเองจนบิดเบือนคุณธรรมของโลก และมีบุคลิกค่อนข้างจะสงบครึมยากที่จะเดาอารมณความได้ นอกจากแสดงออกมาเอง
ประวัติ
จอมทัพแห่งสิบสามหน่วยพิทักษ์ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ “ผู้ยึดมั่นในปัจจุบัน และมั่นคงอยู่เป็นนิจ” จอมทัพอาวุโสซึ่งเป็นผู้สั่งการของสิบสามหน่วยพิทักษ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในการรบ ภาพลักษณ์นั้นจะแสดงออกในรูปแบบของนักรบผู้เข้มงวดและเปี่ยมด้วยความเป็นผู้นำ เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิญญาณชินโอและเป็นหัวหน้าหน่วยรุ่นบุกเบิก ซึ่งอายุของเขานั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ปี
วันเกิด / 21 มกราคม
ส่วนสูง / 168 เซนติเมตร
น้ำหนัก / 52 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ / ริวจินจักกะ
คำปลดปล่อย / “จงเผาสรรพสิ่ง ให้เป็นเถ้าถ่าน ริวจินจักกะ”
ความชอบส่วนตัว / งานเลี้ยงน้ำชาประจำเดือน
ความถนัดส่วนตัว / การซักผ้า
อาหาร / อาหารที่ชอบ - อาหารแบบญี่ปุ่นทุกชนิด
อาหารที่ไม่ชอบ - อาหารแบบตะวันตกทุกชนิด
การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด / ออกไปรับแสงแดดที่ระเบียง
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : ริวจินจักกะ (「流刃若火」, Ryūjin Jakka, – วิถีดาบเพลิงชำระ)
คำปลดปล่อย : "จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน" (「万象一切灰燼と為せ」, banshō issai kaijin to nase, 万象一切灰燼と為せ)
ลักษณะ : ดาบจะคงรูปร่างเดิม แต่จะมีไฟที่ร้อนแรงลุกอาบคมดาบทั้งหมดซึ่งจะเป็นเพลิงที่แผดเผาทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้อย่างง่ายดายแม้แต่เมฆในอากาศและทุกอย่างในอากาศ
ความสามารถ :
แบบที่1 : โจคาคุเอ็นโจ(ปราการเปลวอัคคี) ปล่อยเปลวไฟออกไปล้อมศัตรูที่อยู่ด้านหน้าเป็นจำนวนมาก โดยศัตรูที่ถูกจะมีกำแพงเพลิงขึ้นมาล้อมไว้ ทำให้ไม่สามารถออกไปจากกำแพงเพลิงได้ ถ้าออกไป ร่างกายจะถูกเผาไหม้ทันที
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ไม่ปรากฏ
ชื่อ : ริวจินจักกะ (「流刃若火」, Ryūjin Jakka, – วิถีดาบเพลิงชำระ)
คำปลดปล่อย : "จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน" (「万象一切灰燼と為せ」, banshō issai kaijin to nase, 万象一切灰燼と為せ)
ลักษณะ : ดาบจะคงรูปร่างเดิม แต่จะมีไฟที่ร้อนแรงลุกอาบคมดาบทั้งหมดซึ่งจะเป็นเพลิงที่แผดเผาทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้อย่างง่ายดายแม้แต่เมฆในอากาศและทุกอย่างในอากาศ
ความสามารถ :
แบบที่1 : โจคาคุเอ็นโจ(ปราการเปลวอัคคี) ปล่อยเปลวไฟออกไปล้อมศัตรูที่อยู่ด้านหน้าเป็นจำนวนมาก โดยศัตรูที่ถูกจะมีกำแพงเพลิงขึ้นมาล้อมไว้ ทำให้ไม่สามารถออกไปจากกำแพงเพลิงได้ ถ้าออกไป ร่างกายจะถูกเผาไหม้ทันที
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ไม่ปรากฏ
หน่วยที่ 2 ซุยฟง( ฟงเชาหลิน )
ลักษณะ/อุปนิสัย
ซุยฟง เป็นตัวละครที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดูสงบแต่ก็ดุดัน สิ่งที่พิเศษคือไว้ผมมัดสองข้าง อุปนิสัยที่ดูเย็นชา แต่ก็แฝงความเงียบและโหดเหี้ยมไว้ลึกๆ หากแต่ภายในลึกๆจริงก็แฝงความอ่อนโยนไว้มากเช่นกัน
ซุยฟง เป็นตัวละครที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดูสงบแต่ก็ดุดัน สิ่งที่พิเศษคือไว้ผมมัดสองข้าง อุปนิสัยที่ดูเย็นชา แต่ก็แฝงความเงียบและโหดเหี้ยมไว้ลึกๆ หากแต่ภายในลึกๆจริงก็แฝงความอ่อนโยนไว้มากเช่นกัน
ประวัติ
ซุยฟง มีชื่อเดิมว่า "ฟงเชาหลิน"(蜂少林 (คำว่า 少林 เป็นภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า "โชริน(shorin)" ซึ่งแปลในภาษาจีนได้เป็น "เชาหลิน"))เป็นบุตรสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 6 คน ซึ่งเกิดในตระกูลฟงซึ่งเป็นตระกูลที่อุทิศตนให้กับหน่วยปราบปราม เมื่อเธอเข้ามาในหน่วยปราบปรามจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "ซุยฟง" ซึ่งเป็นชื่อรหัสที่สืบทอดมาจากย่าทวด ในระหว่างการเข้าเป็นหน่วยลับ เธอได้มีความรู้สึกยอมรับนับถือหัวหน้าหน่วยปราบปรามในตอนนั้น ซึ่งก็คือ "ชิโฮอิน โยรุอิจิ" เนื่องจากความเก่งกาจและความสง่างาม จนในที่สุด เธอก็ได้เป็นองครักษ์ของโยรุอิจิ ซึ่งเธอก็ได้สาบานจะจงรักภักดีกับโยรุอิจิตลอดไป จนเมื่อวันหนึ่ง เธอได้รับข่าวว่าโยรุอิจิได้ทำการช่วยเหลือนักโทษเนรเทศอย่าง "อุราฮาร่า คิสึเกะ" จนโดนปลดจากหัวหน้าหน่วยปราบปราม ทำให้ซุยฟงแทบจะสิ้นศรัทธาในตัวของโยรุอิจิ และสาบานว่าจะจัดการโยรุอิจิด้วยตัวเอง
ซุยฟง มีชื่อเดิมว่า "ฟงเชาหลิน"(蜂少林 (คำว่า 少林 เป็นภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า "โชริน(shorin)" ซึ่งแปลในภาษาจีนได้เป็น "เชาหลิน"))เป็นบุตรสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 6 คน ซึ่งเกิดในตระกูลฟงซึ่งเป็นตระกูลที่อุทิศตนให้กับหน่วยปราบปราม เมื่อเธอเข้ามาในหน่วยปราบปรามจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "ซุยฟง" ซึ่งเป็นชื่อรหัสที่สืบทอดมาจากย่าทวด ในระหว่างการเข้าเป็นหน่วยลับ เธอได้มีความรู้สึกยอมรับนับถือหัวหน้าหน่วยปราบปรามในตอนนั้น ซึ่งก็คือ "ชิโฮอิน โยรุอิจิ" เนื่องจากความเก่งกาจและความสง่างาม จนในที่สุด เธอก็ได้เป็นองครักษ์ของโยรุอิจิ ซึ่งเธอก็ได้สาบานจะจงรักภักดีกับโยรุอิจิตลอดไป จนเมื่อวันหนึ่ง เธอได้รับข่าวว่าโยรุอิจิได้ทำการช่วยเหลือนักโทษเนรเทศอย่าง "อุราฮาร่า คิสึเกะ" จนโดนปลดจากหัวหน้าหน่วยปราบปราม ทำให้ซุยฟงแทบจะสิ้นศรัทธาในตัวของโยรุอิจิ และสาบานว่าจะจัดการโยรุอิจิด้วยตัวเอง
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : ซึซึเมะบาจิ (「雀蜂」, Suzumebachi, – ตัวต่อ)
คำปลดปล่อย : "ไล่ล่าเสียบสังหาร" (「尽敵螫殺」, jinteki shakusetsu, 尽敵螫殺)
ลักษณะ : จะแปรสภาพของดาบให้กลายเป็นมีดขนาดเล็กติดที่ข้อมือและนิ้ว รูปแบบคล้ายกับเหล็กไนของแมลง
ความสามารถ : เมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ทำร้ายเป้าหมายได้ครั้งหนึ่ง จะสร้างลายรอยสักขึ้นบนร่างของเป้าหมายบริเวณที่โจมตี ที่ชื่อ "โฮมงกะ" (「蜂紋華」, บุปผาลายผึ้ง, 蜂紋華?) และถ้าใช้ซึซึเมะบาจิโจมตีที่จุดนั้นอีกครั้ง ก็จะปลิดชีพเป้าหมายได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นใคร หรือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : ซึซึเมะบาจิ (「雀蜂」, Suzumebachi, – ตัวต่อ)
คำปลดปล่อย : "ไล่ล่าเสียบสังหาร" (「尽敵螫殺」, jinteki shakusetsu, 尽敵螫殺)
ลักษณะ : จะแปรสภาพของดาบให้กลายเป็นมีดขนาดเล็กติดที่ข้อมือและนิ้ว รูปแบบคล้ายกับเหล็กไนของแมลง
ความสามารถ : เมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ทำร้ายเป้าหมายได้ครั้งหนึ่ง จะสร้างลายรอยสักขึ้นบนร่างของเป้าหมายบริเวณที่โจมตี ที่ชื่อ "โฮมงกะ" (「蜂紋華」, บุปผาลายผึ้ง, 蜂紋華?) และถ้าใช้ซึซึเมะบาจิโจมตีที่จุดนั้นอีกครั้ง ก็จะปลิดชีพเป้าหมายได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นใคร หรือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
หน่วยที่ 3 อิจิมารุ งิน
ลักษณะ/อุปนิสัย
งิน เป็นชายร่างผอมสูง ตาตี่ ผมสีเงิน ใบหน้ามีรอยยิ้มตลอดเวลาภายใต้ความโหดเหี้ยม เขาเป็นคนลึกลับ ไม่สามารถอ่านความคิดของเขาออกได้ และมักจะทำอะไรไปโดยไม่บอกกล่าวใคร
งิน เป็นชายร่างผอมสูง ตาตี่ ผมสีเงิน ใบหน้ามีรอยยิ้มตลอดเวลาภายใต้ความโหดเหี้ยม เขาเป็นคนลึกลับ ไม่สามารถอ่านความคิดของเขาออกได้ และมักจะทำอะไรไปโดยไม่บอกกล่าวใคร
ประวัติ
งิน ในตอนเด็กนั้นอาศัยอยู่ที่เมืองลูคอน ได้เจอกับมัตสึโมโตะ รันงิคุที่กำลังนอนหมดสติอยู่ เขาจึงให้ผลไม้เธอ โดยเขาได้บอกกับรันงิคุว่าวันที่รันงิคุพบเจอเขา คือ วันเกิดของเธอ จากนั้นวันต่อมาเข้าได้หายตัวไป โดยอิชิมารุนั้นได้เข้าสังกัดหน่วยที่ 5 โดนดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า และมีไอเซ็น โซสึเกะเป็นหัวหน้าหน่วย ต่อมาด้วยความสามารถของเขาจึงได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3
งิน ในตอนเด็กนั้นอาศัยอยู่ที่เมืองลูคอน ได้เจอกับมัตสึโมโตะ รันงิคุที่กำลังนอนหมดสติอยู่ เขาจึงให้ผลไม้เธอ โดยเขาได้บอกกับรันงิคุว่าวันที่รันงิคุพบเจอเขา คือ วันเกิดของเธอ จากนั้นวันต่อมาเข้าได้หายตัวไป โดยอิชิมารุนั้นได้เข้าสังกัดหน่วยที่ 5 โดนดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า และมีไอเซ็น โซสึเกะเป็นหัวหน้าหน่วย ต่อมาด้วยความสามารถของเขาจึงได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : ชินโซ(「神鎗」, Shinso, – หอกเทวะ)
คำปลดปล่อย : จงพุ่งสังหาร(「射殺せ」, ikorose, 射殺せ)
ลักษณะ : ดาบจะสั้นไม่เปลี่ยนรูปร่าง แต่เมื่อเล็งไปที่ศัตรูดาบจะยาว
ความสามารถ : ดาบจะยาวเข้าพุ่งหาศัตรู
ความสามารถ2 : แทงดาบลงที่พื้นแล้วปรากฏเป็นดาบยาวจำนวนมากพุ่งขึ้นจากพื้น
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : ชินโซ(「神鎗」, Shinso, – หอกเทวะ)
คำปลดปล่อย : จงพุ่งสังหาร(「射殺せ」, ikorose, 射殺せ)
ลักษณะ : ดาบจะสั้นไม่เปลี่ยนรูปร่าง แต่เมื่อเล็งไปที่ศัตรูดาบจะยาว
ความสามารถ : ดาบจะยาวเข้าพุ่งหาศัตรู
ความสามารถ2 : แทงดาบลงที่พื้นแล้วปรากฏเป็นดาบยาวจำนวนมากพุ่งขึ้นจากพื้น
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ยังไม่ปรากฏ
ยังไม่ปรากฏ
หน่วยที่ 4 อุโนฮานะ เร็ตสึ
ลักษณะ/อุปนิสัย
อุโนฮานะ เป็นหญิงสาวถักผมเปียด้านหน้า เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโกรธเมื่อไหร่จะน่ากลัวขึ้นมาทันที (แม้แต่หน่วยที่ 11 ก็ไม่กล้าหือ) และเธอยังเป็นคนฉลาด ถึงกับมองออกว่าร่างของหัวหน้าไอเซ็นที่ตายไป ไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ซึ่งเธอมีหน้าที่คอยรักษายมทูตที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ โดยที่ทำการหน่วยที่ 4 คือ สถานพยาบาลอุโนฮานะ
อุโนฮานะ เป็นหญิงสาวถักผมเปียด้านหน้า เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโกรธเมื่อไหร่จะน่ากลัวขึ้นมาทันที (แม้แต่หน่วยที่ 11 ก็ไม่กล้าหือ) และเธอยังเป็นคนฉลาด ถึงกับมองออกว่าร่างของหัวหน้าไอเซ็นที่ตายไป ไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ซึ่งเธอมีหน้าที่คอยรักษายมทูตที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ โดยที่ทำการหน่วยที่ 4 คือ สถานพยาบาลอุโนฮานะ
ประวัติ
อุโนฮานะ มีประวัติที่ไม่แน่ชัด เพียงแต่เป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 4 มานาน และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสมาคมยมทูตสตรีแห่งโซลโซไซตี้อีกด้วย
อุโนฮานะ มีประวัติที่ไม่แน่ชัด เพียงแต่เป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 4 มานาน และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสมาคมยมทูตสตรีแห่งโซลโซไซตี้อีกด้วย
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : มินาซึกิ (「肉雫唼」, Minazuki, 肉雫唼)
คำปลดปล่อย : จงร่ายรำ
ลักษณะ : ดาบจะแปรสภาพเป็นสัตว์คล้ายปลากระเบน แต่มีตาเดียว
ความสามารถ : สามารถรักษาบาดแผลและฟื้นร่างกายโดยการกลืนร่างผู้บาดเจ็บเข้าไปในท้องของมินาซึกิ
ในภาคการ์ตูนจะสามารถนำพลังกดดันวิญญาณมาเป็นอาวุธได้
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ยังไม่ปรากฏ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : มินาซึกิ (「肉雫唼」, Minazuki, 肉雫唼)
คำปลดปล่อย : จงร่ายรำ
ลักษณะ : ดาบจะแปรสภาพเป็นสัตว์คล้ายปลากระเบน แต่มีตาเดียว
ความสามารถ : สามารถรักษาบาดแผลและฟื้นร่างกายโดยการกลืนร่างผู้บาดเจ็บเข้าไปในท้องของมินาซึกิ
ในภาคการ์ตูนจะสามารถนำพลังกดดันวิญญาณมาเป็นอาวุธได้
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ยังไม่ปรากฏ
หน่วยที่ 5 ไอเซ๊น โซสึเกะ
ลักษณะ/อุปนิสัย
ไอเซ็น เป็นอดีตยมทูตหัวหน่วยที่ 5 เป็นคนพูดจาสุภาพแต่แฝงไปด้วยความฉลาดเฉลียว ผมหยักศก สวมแว่นตา และใจดีต่อลูกน้อง ไม่เคยปล่อยให้ลูกน้องรับภาระหนัก และเมื่อลูกน้องในหน่วยตกอยู่ในอัตรายเขาจะมาช่วยเสมอ แต่ภายในใจเขาไม่เคยยึดติดกับความยุติธรรมและพร้อมที่จะกำจัดคนที่เห็นสมควรว่าจำเป็นต้องกำจัด ซึ่ง อ.คุโบะ ไทโตะ ได้กล่าวไว้ในการสัมภาษณ์ว่า "ไอเซ็นมีลักษณะเป็นคนลึกลับ" และสาเหตุนี้เองจึงเป็นตัวละครที่คิดร้ายในส่วนลึกของจิตใจนั่นเอง
ไอเซ็นสั่งการลูกน้องซึ่งเป็นอารันคาร์อยู่มากมายโดยก้าวผ่านได้ตามความต้องการ โดยเขาได้รับรู้เรื่องทั้งหมดผ่าน อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ ที่ได้พูดคุยกับ อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ ว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อความทะเยอทะยานของตัวเอง หรือการก้าวผ่านความกลัวในตอนที่เขาข่มขู่ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค หลังจากถูกโทเซ็น คานาเมะตัดแขนและทำลายทิ้ง ถ้ากริมจอว์เข้าทำร้ายโทเซ็น ซึ่งเขาสามารถกำหนดชะตาชีวิตเหล่าอารันคาร์ได้โดยปราศจากความกลัว แต่ก็มีอารันคาร์บางตนที่ยอมทำตามคำสั่งของไอเซ็นเพื่อความต้องการของตนเอง อย่างเช่น ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์ ที่ต้องการกำจัดโลกที่ำไร้ฮอลโลว์ให้หมดสิ้น
จุดประสงค์ที่แท้จริงของไอเซ็น คือ การฆ่าพระราชาที่ปกครองโซลโซไซตี้ โดยเขาต้องการครอบครอง (「王鍵」, ōken, – กุญแจราชันย์?) ที่สามารถเข้าไปยังมิติที่ราชาอาศัยอยู่ โดยมีการเล่าสืบทอดกันมาในหมู่หัวหน้าใหญ่แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ ซึ่งไอเซ็นต้องการวัตถุดิบในการสร้างกุญแจราชันย์ด้วยการนำวิญญาณ 100,000 ดวงจากเมืองคาราคุระ
ในตอนที่อาศัยอยู่ในฮุเอโก้ มุนโด้ ไอเซ็นได้ถอดแว่นออกและเสยผมขึ้น แต่ดวงตาขอเขาก็เต็มไปด้วยอันตรายและทรงผมที่ดูแปลกตายิ่งขึ้น ในขณะที่ก่อนเขาจะออกไปจากโซลโซไซตี้ได้กล่าวกับ อุคิทาเกะ จูชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 13 ไว้ว่า ตัวเขาเองจะก้าวพ้นขอบเขตพระเจ้า และหลังจากที่เขามายังฮูเอโก มุนโด้ได้สวมชุดสีขาวคล้ายชุดของอารันคาร์
ประวัติ
ไอเซ็น เดิมเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 ของ 13 หน่วยพิทักษ์ แต่ด้วยความต้องการที่จะก้าวพ้นขอบเขตของพลังของยมทูตและยึดครองทุกอย่าง จึงได้วางแผนต่างๆนานาเพื่อชิงโฮเคียคุที่อยู่ในร่างเทียมของคุจิกิ ลูเคีย มาเพื่อนำไปสร้างอารันคาร์ ฮอลโลว์ที่ได้รับพลังของยมทูตและมีดาบฟันวิญญาณเหมือนกับของยมทูตด้วย
อดีต
ไอเซ็นได้ทำงานอยู่ในหน่วยที่ 5 มาเป็นเวลานาน ขณะนั้นเขาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ภายใต้การบัญชาของหัวหน้าหน่วย ฮิราโกะ ชินจิ โดยฮิราโกะได้แต่งตั้งไอเซ็นเป็นรองหัวหน้าเพราะความไม่น่าไว้วางใจและเขารู้สึกรับรู้ถึงอันตรายในตัวไอเซ็น ไอเซ็นได้ทำการทดลองการกลายเป็นฮอลโลว์กับวิญญาณในโซลโซไซตี้อย่างลับๆ จนกระทั่งอุราฮาร่า คิสึเกะได้ค้นพบวิธีการดังกล่าว จึงแกล้งใส่ความให้ลงโทษคิสึเกะจนถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้ไปในที่สุด
ในขณะนั้นไอเซ็นได้ร่วมมือกับ อิชิมารุ งิน และ โทเซ็น คานาเมะ โดยเป็นนกต่อให้กับแผนการในครั้งนี้ ต่อมาไอเซ็นได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 และอิชิมารุได้เลื่อนขั้นเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 และเป็นมือขวาคนสนิทของเขาอีกด้วย แต่ต่อมาอิชิมารุและโทเซ็นได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 และ 9 ตามลำดับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังจงรักภักดีต่อไอเซ็นเหมือนเดิม และเมื่อ ฮินาโมริ โมโมะ ได้เข้ามาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 เขาก็ไม่เคยคิดว่าเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 เลยนอกจาก อิชิมารุ งิน เท่านั้น
ในขณะนั้นไอเซ็นได้รับ ฮินาโมริ โมโมะ, คิระ อิซึรุ และ อาบาราอิ เร็นจิ เข้ามาในหน่วยที่ 5 โดยรับฮินาโมริ และคิระที่น่าจะใช้การได้ไปเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ของเขาเอง และหน่วยที่ 3 ของอิชิมารุ แล้วให้อาบาราอิ เร็นจิไปที่หน่วยที่ 11 แทน แต่ภายหลังเร็นจิได้มาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 6
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : เคียวขะ ซุยเงสึ (「鏡花水月」, Kyōka Suigetsu, กระจก บุปผา จันทรา วารี, 鏡花水月)
คำปลดปล่อย : จงสลาย (「砕けろ」, kudakero, 砕けろ)
ลักษณะ : แล้วแต่จะกำหนดเช่นจะกำหนดให้หลอกจาก ผึ้งเป็น มังกร แล้วแต่ผู้ใช้จะกำหนดรูปร่าง
ความสามารถ : มีความสามารถในการสะกดโดยสมบูรณ์ซึ่งจะหลอนทุกประสาทสัมผัสได้อย่างเต็มที่และไร้ช่วงโหว่ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ผู้ที่ต้องการสะกดโดยสมบูรณ์มองเห็นการปลดปล่อยดาบเล่มนี้ครั้งหนึ่งจึงจะแสดงผล แต่ก็ไม่สามารถใช้กับโทเซ็นได้เนื่องจากตาบอด(ขี้เกียจมองนั่นเอง)
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ยังไม่ปรากฏ
หน่วยที่ 6 คุจิกิ เบียคุยะ
ลักษณะ/อุปนิสัย
เบียคุยะ เป็นชายร่างสูง สง่างาม ที่หัวมีปิ่นปักผมของขุนนางชั้นสูง เขาเป็นคนเงียบครึม มักจะไม่ค่อยพูด เคร่งครัดในกฏระเบียบ ไม่ชอบแสดงความรู้สึกทางสีหน้า และที่สำคัญคือมักจะเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ จนบางคนออกปากเรียกเขาว่า"เจ้าชายน้ำแข็ง" แต่แท้จริงแล้วเขาเองก็ถือได้ว่าเป็นคนที่รักษาสัจจะอย่างแท้จริงคนหนึ่ง
ประวัติ
คุจิกิ เบียคุยะ เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูงสุด และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน เขาเป็นพี่ชายบุญธรรมลูเคีย และเป็นหัวหน้าหน่วย 6 ของ "13 หน่วยพิทักษ์" ซึ่งเขาได้รับลูเคียมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เนื่องจากคำสัญญาของเขากับ "ฮิซานะ" ซึ่งเป็นพี่สาวที่แท้จริงของลูเคียและเป็นภรรยาของเขาซึ่งขอให้น้องสาวของตนเรียกเบียคุยะว่าพี่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแหกกฎของตระกูล เขาจึงสาบานต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ว่าจะไม่ทำผิดกฎอีกเป็นครั้งที่สอง และปิดเรื่องนี้เป็นความลับตลอดมา
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : เซ็นบงซากุระ (「千本桜」, Senbonzakura, – ซากุระพันกลีบ)
คำปลดปล่อย : "จงโปรยปราย" (「散れ」, chire, 散れ)
ความสามารถ : ตัวคมดาบจะกลายสภาพเป็นกลีบเล็กๆจำนวนนับพันกระจายออกคล้ายกลีบดอกซากุระ ซึ่งจะพุ่งเข้าเฉือนร่างของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและรุนแรง และสามารถใช้ในการตั้งรับได้อีกด้วย สามารถกันได้ทุกอย่าง
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ชื่อ : เซ็มบงซากุระคาเงโยชิ (「本桜景厳」, เงาหาญซากุระพันกลีบ, 本桜景厳)
ความสามารถ : ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
รูปแบบที่ 1 = เบียคุยะจะปล่อยดาบจมลงดิน และผุดขึ้นมาเป็นคมดาบยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วยเรียงเป็นแถวยาวจนลับสายตา ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
รูปแบบที่ 2 เซ็นเคย์ (「殲景」, เงาพิฆาต, 殲景) = ตัวกลีบคมดาบจะรวมกันกลายเป็นดาบเล็กๆนับร้อยล้อมรอบสถานที่ต่อสู้ ซึ่งเบียคุยะสามารถควบคุมให้ดาบพุ่งเข้ามาหาตัวเองหรือคู่ต่อสู้ได้ตามต้องการ เป็นการโจมตีที่จะปิดช่องทางหนีของศัตรู และจะเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว
รูปแบบที่ 3 ชูเคย์ (「終景」, เงาสุดท้าย, 終景) : ฮาคุเทย์เค็น (「白帝剣」, ดาบจักรพรรดิขาว, 白帝剣) = กลีบคมดาบทั้งหมดจะมารวมกันเป็นดาบเดียว ซึ่งจะมีสีขาวส่องประกาย และจะมีแสงเป็นรูปปีกแตกออกสองข้าง เป็นการโจมตีขั้นสุดท้ายของเซ้มบงซากุระคาเงโยชิ
รูปแบบที่ 4 โกเคย์ (วงล้อมพิฆาต) = กลีบเซ็มบงซากุระจะล้อมรอบศัตรูและจะโจมตีพร้อมกันและไม่เคยมีใครรอด(ยกเว้นอิจิโกะแต่อิจิโกะก็เกือบตาย) ปรากฏครั้งแรกเมื่อการต่อสู้กับเอสปาดาหมายเลย 7 โซมารี เลอรูส์
หมายเหตุ เบียคุยะมีวิธีมารขั้นสูงที่ถนัดที่สุดคือ วิธีผนึกที่ 61 ริวคุโจโกโร (คุกแสงหกชั้น)
หน่วยที่ 7 โคมามูระ ซาจิน
ลักษณะ/อุปนิสัย
โคมามูระ เป็นตัวละครเพียงไม่กี่คนในเรื่องที่มีหน้าตาแปลกประหลาด เขามีหน้าเป็นหมาป่าและตัวเป็นคน(ซึ่งในเรื่องก็ยังไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่ชัดเจนนัก) จึงมักจะสวมหมวกปิดหน้าของตนเองอยู่เสมอ หลังจากศึกที่สู้กับซาราคิ เขาก็มีความมั่นใจมากขึ้น และไม่อายจนต้องใส่หมวกปกปิดหน้าตาอีกต่อไป เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง และรักเพื่อนกับพวกพ้อง
ประวัติ
เนื่องด้วยเขาเป็นคนที่เกิดมามีหน้าตาเป็นหมาป่า ทำให้มีปมด้อยในวัยเด็ก แต่เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจาก "ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ" หัวหน้าหน่วยที่ 1 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" ทำให้เขาได้เข้าเป็นยมทูต โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง"โทเซ็น คานาเมะ"อยู่ด้วยเช่นกัน
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : เท็นเค็น (「天譴」, Tenken, – เชือกดำ)
คำปลดปล่อย : "จงกู่ร้อง" (「轟け」, todoroke, 轟け)
ลักษณะ : จะเป็นดาบที่มีรูปร่างเหมือนตอนไม่ได้ปลดปล่อย แต่มีขนาดใหญ่
ความสามารถ : มีมือของปลดปล่อยสวัสดิกะออกมาถือดาบนั้นเพื่อฟันโจมตี มีพลังทำลายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ขั้นปลดปลอ่ยสวัสดิกะ (บังไค)
ชื่อ : โคคุโจเท็นเก็นเมียวโอ (「黒縄天譴明王」, Kokujō Tengen Myō'ō, – นรกบาลสวรรค์ดาบเชือกดำ)
ลักษณะ : จะปรากฏร่างของเทพเมียวโอ(พระพุทธแบบหนึ่งในความเชื่อของศาสนาพุทธ มีหน้าที่สั่งสอนเหล่าบัวใต้น้ำ)ขนาดใหญ่ยักษ์
ความสามารถ : เทพเมียวโอยักษ์จะเคลื่อนไหวโจมตีคู่ต่อสู้ตามการเคลื่อนไหวของโคมามูระ
เล็กๆน้อยๆ
โคคุโจ (「黒縄」, โลกันต์นรก, 黒縄) เป็นชื่อของหนึ่งใน 8 ขุมนรกในตำนานของพระพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นนรกที่ลงโทษผู้กระทำผิดโดยการจับมัดด้วยด้ายดำ และตัดร่างกายเป็นท่อนๆ
โคคุโจเท็นเก็นเมียวโอ คาดว่าเป็นปลดปล่อยสวัสดิกะที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เรื่องดำเนินมาถึงปัจจุบัน
หน่วยที่ 8 เคียวราคุ ชุนซุย
ลักษณะ/อุปนิสัย
เคียวราคุ ชุนซุย ยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 8 ผู้มีเอกลักษณ์คือ สวมชุดคลุมสีชมพูลายดอกไม้ ปิ่นปักผมราคาแพงเสียบอยู่ โดยลักษณะนิสัยของชุซุย คือ นอนคาบกิ่งไผ่ทั้งวัน ไล่จีบหญิงทั่วเซย์เรย์เทย์ และชอบดื่มเหล้าโดยเฉพาะกับมัตสึโมโตะ รันงิคุ แต่เมื่อเขาจับดาบแล้วจะแสดงถึงความมุ่งมั่นและความน่าเกรงขามได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ประวัติ
ชุนซุยเกิดในตระกูล 1 ใน 4 ขุนนางชั้นสูง ร่ำเรียนวิชามาจาก ยามาโมโตะ เก็นริวไซ พร้อมๆกับ อุคิทาเกะ จูชิโร่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่จบจากสถาบัน มาด้วยกัน ชุนซุยเป็นคนเรื่อยเปื่อยคอยจีบหญิงไปวันๆ แต่ปัจจุบันได้เป็นมาเป็นหัวหน้าหน่วย 8 โดยมี อิเสะ นานาโอะ ซึ่งเป็นทั้งรองหัวหน้าและผู้คุม (ความประพฤติ) ไปพร้อมๆกัน
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)ชื่อ : กะเท็นเคียวคตสึ (「花天狂骨」, Katen Kyōkotsu, – บุปผาสวรรค์กระดูกคลุ้มคลั่ง)
คำปลดปล่อย : "ดอกไม้โปรยปรายในสายลม เทพบุปผาคร่ำครวญ วายุสวรรค์ปั่นป่วน มารฟ้าเสสรวล" (「花風紊れて花神啼き天風紊れて天魔嗤う」, hana kaze midarete, kashin naki, tenpū midarete, tenma warau, 花風紊れて花神啼き天風紊れて天魔嗤う)
ลักษณะ : เดิมที กะเท็นเคียวค๊ตซึนั้นมี 2 เล่มอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากดาบของอุคิทาเกะ โดยดาบทั้ง 2 เล่มนั้น จะเปลี่ยนรูปร่างเป็นดาบที่ด้ามดาบจะมีพู่คล้ายดาบจีน คมดาบจะมีลักษณะคล้ายคมง้าวคล้ายดาบแขก
ความสามารถ : ผสานการโจมตีด้วยเพลงดาบและสายลม(ปรากฏในเกม bleach heat the soul/bleach blade battle)
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ยังไม่ปรากฏ
หมายเหตุ : เคียวราคุเป็นยมทูตคนเดียวที่พกดาบขณะที่ยังไม่ปลดปล่อย 2 เล่ม
หน่วยที่ 9 โทเซ๊น คานาเมะ
ลักษณะ/อุปนิสัย
โทเซ็น มีนัยน์ตาทั้งสองข้างที่มืดบอด ซึ่งเขามักจะใส่แว่นปกปิดไว้ และมีผิวสีคล้ำกับผมหยิก เหมือนกับคนแอฟริกัน เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์ของตนออกมาชัดเจนนัก เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง และรักความยุติธรรมในแบบฉบับของตนเอง
ประวัติ
ประวัติของโทเซ็นอาจจะยังไม่แน่ชัดนัก แต่ในอดีตเขาเคยสูญเสียหญิงคนรัก โดยที่เธอไปสมัครเข้าเป็นยมทูต แต่สุดท้ายสามีของเธอไม่พอใจเธอและฆ่าเธอตาย ทำให้เขาเข้ากับ 13 หน่วยพิทักษ์ เพื่อความต้องการที่จะเรียกร้องคุณธรรมของเขา หน่วยที่โทเซ็นเข้าในตอนแรกคือ "หน่วย 5" และมีเพื่อนสนิทคือ "โคมามูระ ซาจิน" เนื่องจากโทเซ็นตาบอดจึงมองไม่เห็นหน้าที่แท้จริงของเขาจึงเข้ากันได้ดี และต่อมาโทเซ็นก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าของหน่วยที่ 9
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : ซึซึมุชิ (清虫 , จิ้งหรีด)
คำปลดปล่อย : จงส่งเสียง (鳴け , นาเคะ)
ลักษณะ จะคงลักษณะของดาบคาตานะไว้
ความสามารถ แบบที่ 1 จะปล่อยคลื่นเสียงออกมา ทำให้ผู้ที่ได้ยินหมดสติ
แบบที่ 2 เบนิฮิโค (紅飛蝗 , ตั๊กแตนสีเลือด) จะสร้างใบดาบจำนวนมากและสาดใส่คู่ต่อสู้แบบห่าฝน
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ชื่อ : เอ็นมะโคโรกิ (閻魔蟋蟀 , จิ้งหรีดพญายม)
ลักษณะ : จะสร้างห่วงขึ้นมา 8 ห่วง ซึ่งมันจะขึงตัวเองเป็น 8 มุมและเกิดเป็นโดมขนาดใหญ่สีดำ ครอบคลุมผู้ใช้ คู่ต่อสู้ และบริเวณพื้นที่ต่อสู้ทั้งหมด
ความสามารถ : เมื่อคู่ต่อสู้ถูกขังอยู่ในโดมสีดำ จะสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมด(รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสพลังกดดันวิญญาณ ยกเว้นกายสัมผัส)ทำให้ยากที่จะตอบโต้ผู้ใช้ได้ ผู้ที่สัมผัสดาบ ซึซึมุชิ เท่านั้น ที่จะรับรู้ประสาทสัมผัสทั้งหมดได้อย่างปกติ
หน่วยที่ 10 อิสึกายะ โทชิโร่
ลักษณะ/อุปนิสัย
ฮิซึกายะเป็นหัวหน้าหน่วยที่รูปร่างเล็กที่สุดและน่าจะมีอายุน้อยที่สุดในบรรดา หัวหน้าหน่วยด้วย ฮิตสึกายะกังวลกับความสูงของตนเองมาก ฮิตสึกายะมีผมสีขาวราวกับหิมะ แววตาและสีหน้าคมเข้มแทบจะตลอดเวลา เป็นคนฉลาดและมีความสามารถมาก นิสัยออกจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัว หยิ่งนิดๆ แต่มีความรับผิดชอบสูง เป็นเด็กอัจฉริยะ
ประวัติ
ฮิซึกายะเกิดในเมืองลูคอนตะวันตกเขต 1(จุนรินอัน) และเป็นเพื่อนกับฮินาโมริ แม้จะเข้าโรงเรียนยมทูตทีหลัง แต่กลับรุดหน้าด้วยพลังกดดันวิญญาณสูงยิ่งยวด จึงแซงหน้าฮินาโมริ ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 10 และนับเป็นหัวหน้าหน่วยที่อายุน้อยที่สุดภายในเรื่อง
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : เฮียวรินมารุ (「氷輪丸」, Hyōrinmaru, – วงแหวนน้ำแข็ง)
ท่วงทำนองวิญญาณ : "จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์" (「霜天に坐せ」, sōten ni zase, 霜天に坐せ)
ความสามารถ : สร้างน้ำแข้งให้ออกมาในรูปมังกรควบคุมสภาพอากาศได้และใช้โซ่ที่ออกมาจากด้ามดาบในการช่วยตรึงศัตรู และข่มขืนศัตรู
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ชื่อ : "ไดกุเร็น เฮียวรินมารุ" (「大紅蓮氷輪丸」, Daiguren Hyōrinmaru, – วงแหวนน้ำแข็งดอกบัวโลหิต)
รูปแบบ : หลังจากใช้จะมีน้ำแข็งจำนวนหนึ่งห้อหุ้มแขนขวาของฮิตสึกายะไว้ และงอกออกไปเป็นปีก 1 คู่ ใช้ในการตั้งรับ และจะมีดอกไม้สี่แฉกออกมา โดยดอกไม้เหล่านี้จะเป็นบอกเวลาของการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ เมื่อกลีบของดอกไม้หายไปทั้งหมดปลดปล่อยสวัสดิกะก็จะสลายไป
ความสามารถ : เมื่อฟันใส่ศัตรูน้ำแข็งจะเกาะที่ร่างของศัตรู และทำให้ทั้งร่างของคู่ต่อสู้เป็นน้ำแข็ง หรือจะปล่อยพลังออกมาในรูปมังกรน้ำแข็งเพื่อโจมตีระยะไกลก็ได้
รูปแบบที่ 2 : "เซ็นเน็นเฮียวโร" (「千年氷牢」, sennen hyōrō, – คุกน้ำแข็งพันปี)
ความสามารถ : สร้างเสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบและบีบอัดแช่แข็งศัตรูไว้
เกร็ดความรู้ -ฮิตซึกายะ มีของโปรดคือ นัตโตะหวาน ที่ยายชอบ -ฮิตซึกายะ ตั้งใจทำงาน เพราะทำเสร็จจะได้ไปนอน เพราะยายเคยบอกว่ายิ่งนอน ก็ยิ่งโต
หน่วยที่ 11 ซาราคิ เคมปาจิ
ลักษณะ/อุปนิสัย
เคนปาจิ เป็นชายร่างใหญ่ ไว้ผมทรงหนามและมีกระดิ่งห้อยที่ปลายเส้นผม ตาขวาของเขามีผ้าปิดตาที่ของงานวิจัยของหน่วยที่ 12 ผลิต เอาไว้เพื่อกัดกินพลังวิญญาณที่ส่วนเกิน บนหลังของเขาจะมียาจิรุเกาะอยู่เสมอ เคมปาจิเป็นคนที่ชื่นชอบการต่อสู้ และไม่สนใจศัตรูที่อ่อนแอกว่าตนเอง เขาไม่มีทั้งชิไคและบันไค แต่ในการต่อสู้ของเขาจะใช้พลังวิญญาณล้วนๆในการต่อสู้กับศัตรู
ประวัติ
เคมปาจิ มาจากเขตเมืองลูคอนที่ 80 ที่ชื่อว่า "ซาราคิ" โดยชื่อ "เคมปาจิ" เป็นชื่อที่มอบให้กับยมทูตที่เก่งกาจและชอบการฆ่าฟันมากที่สุด เขาได้พบกับยาจิรุในเมืองลูคอนเขตที่ 79 ทันทีที่เขาเข้าบรรจุใน 13 หน่วยพิทักษ์ เขาได้ดวลกับหัวหน้าหน่วยและฆ่าอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 11 และตนเองได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 11 แทน แม้ว่าเขาจะไม่รู้ชื่อดาบฟันวิญญาณของตัวเอง และไม่สามารถปลดปล่อยดาบทั้งขั้นต้นและปลดปล่อยสวัสดิกะได้เลย แต่ด้วยเพราะความสามารถและมีความมุ่งมั่นจึงเป็นหัวหน้าหน่วยคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถปลดปล่อยดาบได้
ดาบฟันวิญญาณ
ชื่อ :ไม่ทราบชื่อดาบ
เกร็ดความรู้
เคมปาจิสามารถบรรจุในหน่วยที่ 11 ได้โดยวิธีการเอาชนะหัวหน้าหน่วยที่ 11 คนก่อนได้โดยมีสมาชิกหน่วย 200 คนเป็นพยานยืนยัน
หน่วยที่ 12 คุโรซึจิ มายูริ
ลักษณะ/อุปนิสัย
ปกติมักจะใส่หน้ากากประหลาดอยู่โดยตลอดทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักใบหน้าที่แท้จริง นอกจากนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของเขายังได้รับการดัดแปลงจนสภาพไม่เหมือนกับปกติ เช่น แขนขายืดหดได้ไม่ก็สามารถงอกได้เมื่อได้รับยากระตุ้น ซึ่งหน้าที่แท้จริงของเขานั้นจะออกดูไม่ผอมมากนัก ตามในฉบับอะนิเมะมีผมสีฟ้า นิสัยเป็นคนที่ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว และบ้าในงานวิจัยของตนเองมากจนเหมือนจะเป็นคนวิปริตสติเฟื่อง
ประวัติ
คุโรซึจิ เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 12 ในอดีตมายูริเป็นบุคลที่อันตรายมากของโซไซตี้ จึงถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินของหน่วยลับแต่ อุราฮาร่า คิสึเกะ ได้เห็นถึงความสามารถและความฉลาดที่ยมทูตคนอื่นๆไม่มีจึงรับมายูรมาทำงานที่กองวิจัย ซึ่งมายูริเป็นคนที่รับช่วงต่องานวิจัยต่างๆต่อจากหัวหน้าหน่วย 12 "อุราฮาร่า คิสึเกะ" เขาเข้าควบคุมดูแลงานของกองวิทยาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะสนใจในงานวิจัยของตนเองเท่านั้นแต่ของใช่ต่างๆของยมทูตในปัจุบันล้วนถูกสร้างจากมายูริทั่งนั้น ถือว่าเป็นยมทูตที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญก้าวหน้าของโซไซตี้และสฎคัญอย่างขาดไม่ได้ สังเกตได้จากเวลามีเหตุอะไรเกิดขึ้นหน่วยวิจัยจะต้องพบข้อมูลก่อน และต้องสร้างเครื่องมือต่างๆไว้รับมือกับศัตรู โดยหัวหน้าหน่วย1ต้องของความช่วยเหลือจากกองวิจัยเป็นประจำ และในเรื่องมายูริดูเป็นยมทูตที่ฉลาดที่สุดอีกด้วย
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : อะคิโซกิจิโซ (「疋殺地蔵」, Ashisogi Jizō, 疋殺地蔵)
คำปลดปล่อย : "จงฉีกกระชาก" หรือ "จงขีดข่วนกระชาก"(「掻き毟れ」, kakimushire, 掻き毟れ)
ลักษณะ : ตัวดาบจะกลายสภาพเป็นดาบสีเหลืองทองที่มีเงี่ยงแหลมออกมาคล้ายกับกริช และที่ส่วนด้ามจะมีลักษณะเป็นส่วนหัวของจิโซ (รูปเทวรูปรูปเด็ก/เณร ที่ตั้งอยู่ตามท้องถิ่นในญี่ปุ่นคล้ายกับพระพุทธรูปในพระพุทธศาสนา มีความเชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของเทพเจ้าที่ถูกส่งมาเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินในตำนานของญี่ปุ่น)ซึ่งมีความสวยงามมาก
ความสามารถ : จะทำให้ผู้ที่ถูกฟันสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ไม่ใช่ยาชา โดยความเจ็บปวดจะไม่หายไปแม้แต่น้อย
ขั้นปลดปล่อยสวัสติกะ (บังไค)
ชื่อ : คอนจิกิอะชิโซกิจิโซ (「金色疋殺地蔵」, Ashisogi Jizō, – อะชิโซกิจิโซสีทอง)
ลักษณะ : เป็นร่างของจิโซขนาดยักษ์ ที่มีส่วนช่วงล่างเป็นหนอนชาเขียว มีดาบจำนวนมากอยู่ที่อกและท้องและร่างมีสีทอง
ความสามารถ : สามารถปล่อยพิษที่ทำจากเลือดของตัวเองได้ในรัศมี 100 เค็น (1 เค็น = 1.8 เมตร) ส่วนชนิดของพิษนั้นมายูริจะเปลี่ยนทุกครั้ง (เพื่อป้องกันผู้โดนพิษแล้วมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งถือเป็นความฉลาดที่น่ากลัวของมายูริเลยทีเดียว) และสามารถใช้ใบดาบขนาดใหญ่ออกมาโจมตีประมาณ200เล่ม หรือจะให้จิโซยักษ์เขมือบคู่ต่อสู้ก็ได้ ทั่งนี้จิโซยักษ์ยังสามารถมุดลงดินได้ และถ้าหากจิโซยักษ์จะทำการโจมตีมายูริไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใด จิโซยักษ์ก็จะระเบิดตัวเองทันที เป็นกลไกทีมายูริเป็นคนสร้าง ถือว่ามายูริมีความรอบคอบมากในทุกๆด้าน
ทักษะเพิ่มเติม
- การใช้ทุ้นระเบิดในจังหวะที่ศัตรูเผลอ - ใช้ยาพิเศษเพื่อสร้างแขนขึ้นมาใหม่ - ดึงปุ่มที่หูออกมาเป็นเชือกที่มีใบมีดที่ส่วนปลาย
หน่วยที่ 13 อุคิทาเกะ จูชิโร่
ลักษณะ/อุปนิสัย
อุคิทาเกะ จูชิโร่ มีรูปลักษณ์ของชายอายุราว 20 ปี ลักษณะเด่นของเขาคือผมที่ขาวโพลนทั้งศีรษะ เนื่องมาจากอาการวัณโรค เขาป่วยหนัก 3 วัน 3 คืน จนผมกลายเป็นสีขาว เขามีใบหน้าที่ดูสงบแต่ก็ยิ้มแย้มอยู่เสมอ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก จนใครๆก็รักใคร่ และได้รับการนับถือทั้งจากคนทั้งหน่วยเดียวกันและหน่วยอื่นทั้งในด้านอุปนิสัยและความสามารถที่โดดเด่น เสียอย่างเดียวคือ ร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงต้องล้มหมอนนอนเสื่ออยู่บ่อยครั้ง เนื่องมาจากเป็นโรคปอดมาตั้งแต่เด็ก
ประวัติ
อุคิทาเกะ จูชิโร่ เกิดในตระกูลขุนนางชั้นล่างของโซลโซไซตี้ เป็นพี่ชายคนโตของพี่น้องจำนวน 8 คน ด้วยความสามารถที่โดดเด่นและอุปนิสัยที่มีอัธยาศัยดี เขาจึงสามารถขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยรุ่นแรกๆที่จบจากสถาบันวิญญาณชินโฮได้ไม่นาน และเข้ามาเป็นหัวหน้าของหน่วยที่ 13 ซึ่งแน่นอนว่า เป็นหัวหน้าของคุจิกิ ลูเคียเช่นกัน แต่ติดที่เขามักจะป่วยกระเสาะกระแสะกับโรคประจำตัวอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ค่อยออกไปดูแลหน่วยเท่าที่ควร ซึ่งเขาได้ให้ชิบะ ไคเอ็นรองหัวหน้าคอยดูแลหน่วยแทนให้ จนเมื่อไคเอ็นเสียชีวิตลง ก็ได้อันดับสามของหน่วยทั้งสองคนอย่างโคเท็ตสึ คิโยเนะและโคสึบากิ เซ็นทาโร่เป็นคนคอยช่วยเหลือการดูแลหน่วยแทน
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น(ชิไค)
ชื่อ : โซเกียวโนะโคโตวาริ (「双魚理」, Sōgyo no Kotowari, – สัจจะมัจฉาคู่)
คำปลดปล่อย : "จงเป็นโล่ให้ข้าดั่งเกลียวคลื่น จงเป็นดาบให้ข้าดั่งสายฟ้า" (「波悉く我が盾となれ雷悉く我が刃となれ」, nami kotogotoku waga tate to nare, ikazuchi kotogotoku waga yaiba to nare, 波悉く我が盾となれ雷悉く我が刃となれ)
ลักษณะ : ตัวดาบจะแยกออกเป็นสองเล่ม ซึ่งจะมีสายร้อยถึงกันที่ปลายด้ามดาบซึ่งจะมีแผ่นเครื่องรางโลหะเล็กๆห้อยติดอยู่ตามสาย และคมดาบจะมีลักษณะเป็นซี่แยกเป็นงุ้มไปด้านสัน
ความสามารถ : ยังไม่มีการเปิดเผย แต่ในเกม Bleach GC: Tasogare Ni Mamieru Shinigami ของเครื่อง GameCube นั้นได้ระบุว่าเป็นการควบคุมสายฟ้า
แต่ในเกม Bleach:Heat the soul 5 ระบุว่าควบคุมได้ทั้งน้ำและไฟฟ้า
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ยังไม่ปรากฏ